ทำความรู้จักกองทุน SSF 2566 แบบมีเงินปันผล สำหรับการออมระยะยาว

กองทุน SSF 2566

นับว่าปี 2566 นี้ได้เดินทางมาเกินครึ่งปีแล้ว ใครที่คิดว่าอยากเป็นนักลงทุน และต้องการเริ่มต้นกับกองทุน SSF 2566 ซึ่งก็ถือว่ายังเป็นเรื่องที่ไม่สาย เพราะกองทุนนี้มีความคุ้มค่า นักลงทุนจะได้ทั้งการลงทุนและการออมเงินระยะยาว ไปพร้อม ๆ กับได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งในบทความนี้เราจะแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับกองทุน SSF แบบมีเงินปันผลว่าเป็นอย่างไร น่าลงทุนขนาดไหน และเหมาะกับใคร ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย

กองทุน SSF 2566 เป็นอย่างไร และเหมาะกับนักลงทุนประเภทไหน

กองทุน SSF 2566 ยังคงเป็นกองทุนรวมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการออมเงินระยะยาว โดยมีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท อีกทั้งยังลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ทองคำ, หุ้น, อสังหาริมทรัพย์ และตราสารหนี้ เป็นต้น

กองทุน SSF จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เพื่อช่วยให้นักลงทุนได้มีโอกาสออมเงินระยะยาว ต่อยอดให้เงินลงทุนจำนวนน้อยเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และยังได้สิทธิประโยชน์จากการนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย โดยกองทุน SSF แบ่งนโยบายออกเป็น 2 ประเภท คือ นโยบายจ่ายเงินปันผล กับไม่จ่ายเงินปันผล นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง หากต้องการให้มีเงินสดจากกองทุนออกมาใช้สม่ำเสมอระหว่างการถือหน่วยลงทุน ให้เลือกนโยบายแบบมีเงินปันผล แต่ถ้าต้องการออมระยะยาว และรับเงินก้อนใหญ่ทีเดียวเมื่อครบกำหนด 10 ปี ให้ เลือกนโยบายไม่จ่ายเงินปันผล

กองทุน SSF 2566

กองทุน SSF 2566 แบบจ่ายเงินปันผล ดีไหม เหมาะกับใคร

กองทุน SSF 2566 แบบจ่ายเงินปันผล เป็นกองทุนที่นักลงทุนให้ความสนใจ และมีคำถามมากที่สุด เพราะในเมื่อกองทุน SSF จัดตั้งขึ้นมาช่วยในการออมเงินระยะยาว 10 ปี แต่การเลือกรับปันผลตลอดระยะเวลาที่ถือหน่วยลงทุน จะเป็นผลดีต่อนักลงทุนหรือเปล่า จะได้กำไรขนาดไหน และใครบ้างที่เหมาะกับกองทุนประเภทนี้ เราจะมาโฟกัสไปที่กองทุนประเภทนี้ให้ลึกลงไปอีก เพื่อช่วยให้นักลงทุนที่ยังมีความสงสัยอยู่ได้เข้าใจมากขึ้น และนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจ

สำหรับกองทุน SSF แบบจ่ายเงินปันผล จะจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนระหว่างที่ยังถือหน่วยลงทุนอยู่เป็นเงินสด โดยผลตอบแทนที่ได้รับนั้นจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินการตามนโยบาย และการจ่ายเงินปันผลนักลงทุนจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ซึ่งก็มีเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่นักลงทุนนิยมใช้กัน คือ เช็กฐานภาษีของตัวเองก่อนว่า เท่ากับ มากกว่า หรือน้อยกว่า 10%

  • สำหรับผู้ที่มีฐานภาษีเท่ากับ หรือมากกว่า 10% จะไม่นำเงินปันผลไปรวมเป็นฐานรายได้เพื่อขอคืนภาษีอีก เพราะจะไม่ได้เงินคืน อีกทั้งยังต้องเสียภาษีเพิ่มด้วย
  • สำหรับผู้ที่มีฐานภาษีน้อยกว่า 10% ให้นำเงินปันผลไปรวมเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 เพื่อนำไปยื่นภาษี เปิดโอกาสในการได้คืนภาษีปันผลที่โดนหักไป

ดังนั้นหากถามว่ากองทุน SSF 2566 แบบมีปันผลเหมาะกับใคร หากให้วิเคราะห์กันจริง ๆ จะเหมาะสมกับนักลงทุนที่มีเงินก้อนใหญ่มากกว่า เพราะเงินปันผลที่จ่ายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนในจำนวนที่น่าพอใจ ส่วนนักลงทุนที่มีเงินน้อยอย่าเพิ่งเสียใจไป ซึ่งหากมองตามเหตุตามผลแล้ว เงินลงทุนน้อยก็จะได้รับเงินปันผลที่มีจำนวนน้อยตามสัดส่วนการลงทุนไปด้วย แต่ในโลกของการลงทุนย่อมมีทางออกสำหรับนักลงทุนเสมอ ไม่ว่าจะเงินเยอะหรือเงินน้อย 

โดยถ้าหากเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนที่มีเงินน้อย คือ ต้องการรับเงินปันผลจริง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลงทุน นักลงทุนจะต้องจัดสรรระบบการเงินของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อแบ่งเงินมาลงทุนเพิ่ม ก็จะช่วยให้มีผลตอบแทนที่สูงขึ้นตรงตามเป้าหมายการลงทุนได้ 

นอกจากนี้การลงทุนกับกองทุน SSF แบบมีเงินปันผล ยังมีประโยชน์กับนักลงทุนกลุ่มวัยเกษียณเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากไม่ได้เริ่มต้นลงทุนตั้งแต่อายุ 45 เพื่อออมเงินอีก 10 ปี และได้เงินก้อนใหญ่มาใช้ในวัยเกษียณพอดี ก็แทบจะเรียกได้ว่าชีวิตวัยเกษียณไม่มีรายได้อะไรเลย ดังนั้นกองทุน SSF แบบมีเงินปันผลจึงเป็นทางออกสำหรับวัยเกษียณ ที่จะช่วยให้มี Passive Income เพิ่มเข้ามา

จากข้อมูลของกองทุน SSF 2566 ที่กล่าวมาทั้งหมด นักลงทุนจะสังเกตได้ว่า หากเรามีความรู้ความเข้าใจในรูปแบบการลงทุนมากพอ ทุกทางตันย่อมมีทางออกเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเทคนิคการขอคืนภาษี การช่วยวางแผนให้นักลงทุนเงินน้อยสามารถเลือกลงทุนแบบมีเงินปันผลได้ และการวางแผนให้นักลงทุนวัยเกษียณสามารถมี Passive Income เพิ่มเข้ามา ดังนั้นหากนักลงทุนสนใจลงทุนกับสินทรัพย์ใด ๆ ควรทำการศึกษาและวางแผนการลงทุนของตัวเองก่อน เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างราบรื่น